Agile Workshop: An alternative software development

Theerawat Kaewchote
3 min readMay 27, 2017

--

บอกเล่าประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับจาก Agile Workshop 24–26 ​​May 2017

ท้าวความกันก่อนเลย ส่วนตัวแล้ว เคยศึกษาและได้ยินคำนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่ตอนนั้นเหมือนมันห่างตัวไป เลยไม่ได้สนใจไม่ใส่ใจที่จะศึกษา จนมาทำงานได้รู้ว่า หลายๆที่นั้นใช้กัน เลยอยากที่จะศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อจะนำมาพัฒนาการทำงานให้มีความรวดเร็วและเพิ่ม Productivity ให้มากขึ้น จึงขอ Boss ไปว่าอยากจะไปอบรม Agile เหตุผลก็ที่เอ่ยมาข้างต้นแหละครับ ทาง Boss เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ เลยจัดให้เลย ส่งทีมไปกัน 3 คน มาเริ่มกันเลยดีกว่า …

Day 1

วันแรกมี Coach 2 ท่านด้วยกัน ท่านแรก คุณพฤทธิ์ อุดมพฤกษ์ (พี่พฤทธิ์) จากสยามชำนาญกิจ และอีกท่านคือ คุณพิชญา เพ็ญจันทร์ (พี่ภา) จากสยามชำนาญกิจเช่นกัน เริ่มต้นด้วย พี่พฤทธิ์ อธิบายความหมายของ Agile ว่ามันคืออะไร มีหลักปฏิบัติอย่างไรบ้าง Agile อธิบายสั้นๆตามที่ผมเข้าใจครับ คือการทำงานเป็นรอบๆ ทำให้ได้รับ feedback ที่เร็ว และต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้า ได้เล่น ได้สัมผัสกับ software ที่ทำงานได้จริง เร็วขึ้น ซึ่ง Agile ประกอบไปด้วยคุณค่า 4 ประการและหลักปฏิบัติ 12 ข้อ ซึ่งผมไม่ขอลงรายละเอียดนะครับเดี๋ยวจะยาวไป ลองไปหาอ่านกันดู

เมื่อถึงครึ่งบ่าย พี่ภาก็มีเกมส์ให้เล่น นั่นก็คือ เกมโยนเหรียญ จุดประสงค์ของเกมส์นี้คือ ให้รู้จักการ Estimate time การพูดคุยกันในทีม การทำงานเป็นรอบๆ ซึ่งเกมส์นี้จะมีการ์ดทั้งหมด 25 ใบ แบ่งเป็น 10 20 50 100 1000 อย่างละ 5 ใบ ให้เป็นมูลค่าของการ์ดนั้นๆ และให้โยนเหรียญได้ 45 ครั้ง แบ่งเป็น 3 รอบ รอบละ 15 ครั้ง

เริ่มเกม

พี่ภาให้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม มีหน้าที่ต่างกันคือ PO กับ Dev team

  • PO มีหน้าที่จัดการกับการ์ดโดยเขียน Requirement ว่าต้องการอะไรบ้าง และจัดเรียง ลำดับความสำคัญ ว่าอยากได้อันไหนก่อน ตัวอย่างเช่น

โยนเหรียญ 2 เหรียญ ให้ออกหัว 1 เหรียญ ออกก้อย 1 เหรียญ และให้กำหนด มูลค่าของการ์ด ลำดับความสำคัญคือ อยากได้อันแรก

  • Dev team มีหน้าที่ Estimate เวลาจาก requirement ที่ได้มาและทำการพูดคุยกับ PO ว่า จะทำได้กี่การ์ด และ มูลค่าได้เท่าไร เมื่อตกลงเสร็จ ก็ทำการโยนเหรียญรอบแรก ตามเงื่อนไขการ์ดแต่ละใบ

เมื่อจบเกม ก็จะทำการประเมินว่า เราทำได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ และ ได้มูลค่ามากน้อยแค่ไหน น่าสนุกใช่มั้ยครับ ลองเอาไปเล่นกันดูได้

Day 2

ในวันที่สอง มี Coach 1 ท่าน คือคุณ ประธาน ด่านสกุลเจริญกิจ (พี่หนุ่ม) พี่หนุ่มจะทำการทวนความรู้จากวันแรกก่อนที่จะเข้าเนื้อหาของวันที่สอง

ซึ่งวันที่สองจะนั้นจะบอกถึงการทำ Product Backlog Refinement ในช่วง Pre Game ว่าควรจะจัดลำดับความสำคัญอย่างไร การแตก Task งาน ทำอย่างไรบ้าง

แล้วพี่หนุ่มได้ยกตัวอย่างการแตก Task งาน ทำ Product Backlog โดยใช้วิธี Fishbone diagram

จากกิจกรรมนี้จะทำให้เราฝึกการย่อยงานจาก Requirement เพื่อที่จะนำไปใช้ในการ Estimate เวลา ของแต่ละ task งาน

Day 3

ในวันสุดท้ายพี่หนุ่มสอนถึงเรื่องของ Sprint Planning การทำ Acceptance Test Data ซึ่งพี่หนุ่มก็มีกิจกรรมให้ทำ เพื่อให้เข้าใจการทำงาน โดยพี่หนุ่มจะให้ Acceptance Test Data มา เพื่อให้แต่ละกลุ่มจำลองการทำงานโดยใช้ A-DAPT Blueprint

จากกิจกรรมนี้ทำให้รู้ว่าจะทำระบบอย่างไรให้ตรงตาม Requirement และถูกต้อง พร้อมกับ วิธีการที่จะ Test เพื่อส่งมอบงานให้กับ ลูกค้า

สรุปวันสุดท้าย การทำ Agile เป็นแนวคิดที่จะช่วยให้การทำงานนั้น ได้รับ Feedback เร็วขึ้น ทำให้งานถูกต้องตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งหนึ่งในสี่ข้อคุณค่าของ Agile นั้นพูดถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก

จบสามวัน ได้รับความรู้มากมาย การนำ Agile เข้าไปใช้ในองค์กรนั้นเป็นเรื่องดี แต่ต้องมีการปรับตัวสูงมาก ต้องมีวินัย ไม่ใช่ว่าจะนำเข้าไปใช้ได้เลย จึงจำเป็นต้องค่อยๆฝึกฝน ไม่ก็นำหลักการบางข้อไปประยุกต์ใช้ในองค์กร เพื่อให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากสามวันที่ผ่านมา ตัวผมเองรู้สึกว่าประเด็นสำคัญของ Agile คือการสื่อสารของกลุ่มนักพัฒนา และความมีวินัยในการทำงาน

ปล. บทความนี้ ไม่ได้ลงรายละเอียดในเนื้อหาของ Agile มากนัก แต่เป็นเพียงการแชร์ประสบการณ์จาก Workshop ที่ตัวผมได้เข้าร่วมมา

ก่อนจากกัน ผมอยากจะบอกว่าเคยอ่านบทความเรื่อง Agile จากพี่คนนึง ซึ่งไม่คิดว่าจะมาเจอตัวจริงในการทำ Workshop ครั้งนี้ นั่นก็คือพี่ภา ติดตามพี่ภากันได้นะครับ

สำหรับผู้ที่หลงเข้ามาอ่าน อย่าลืมกด ❤ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

--

--